top of page

ตกขาวเกิดจากอะไรได้บ้าง?



สำหรับผู้หญิงแล้ว อาการ “ตกขาว” เป็นสิ่งปกติที่ผู้หญิงทุกวัยอาจต้องพบเจอ  ซึ่งเกิดจากการหลั่งสารคัดหลั่งจากเยื่อบุช่องคลอด   มดลูก   และต่อมบริเวณอวัยวะเพศ   โดยทั่วไปจะมีลักษณะใส   ขาวขุ่น   ไม่มีกลิ่น   ปริมาณและลักษณะของตกขาวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงของรอบเดือน   ฮอร์โมน   และปัจจัยอื่นๆ เชื่อว่า ในบางที เมื่อมีอาการตกขาวบ่อยๆ ก็สร้างความน่ากวนใจให้ผู้หญิงอยู่ไม่น้อย เรามาดูกันว่า ตกขาว เกิดจากอะไรกันบ้าง



สาเหตุของตกขาวที่พบบ่อย

ฮอร์โมน: ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เปลี่ยนแปลงระหว่างรอบเดือน ส่งผลต่อปริมาณและลักษณะของตกขาว

การตั้งครรภ์: ตกขาวมักมีปริมาณมากขึ้นและข้นขึ้น

การติดเชื้อ: เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ อาจทำให้ตกขาวมีสี กลิ่น หรือลักษณะผิดปกติ

ยาบางชนิด: ยาคุมกำเนิด ยาต้านการตั้งครรภ์ ยาปฏิชีวนะ อาจส่งผลต่อลักษณะของตกขาว

การระคายเคือง: สารเคมีในผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้น สบู่ น้ำยาทำความสะอาด อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและตกขาว

ภาวะมะเร็งปากมดลูก: ตกขาวที่มีสีน้ำตาล เลือด หรือมีกลิ่นเหม็น อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปากมดลูก


หากตกขาวมีปริมาณมากผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษา ซึ่งอาการตกขาวในลักษณะต่างๆ มี ดังนี้


1. ตกขาวที่มีสีเขียว เหลือง หรือเทา อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ มักมีกลิ่นเหม็น คัน แสบ ระคายเคือง

2. ตกขาวที่มีกลิ่นเหม็น อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือการล้างทำความสะอาดไม่สะอาด มักมีสีเขียว เหลือง หรือเทา คัน แสบ ระคายเคือง

3. ตกขาวที่มีฟอง อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือการแพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้น มักมีกลิ่นเหม็น คัน แสบ ระคายเคือง

4. ตกขาวที่มีเลือดปน อาจเกิดจากการมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน การติดเชื้อ หรือมะเร็งปากมดลูก

มักมีสีชมพู น้ำตาล แดง คัน แสบ ระคายเคือง

5. ตกขาวที่มีอาการคัน แสบ ระคายเคือง อาจเกิดจากการติดเชื้อ การแพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้น หรือภาวะช่องคลอดแห้ง มักมีตกขาวผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย

6. ตกขาวที่มีปริมาณมากผิดปกติ  อาจเกิดจากการติดเชื้อ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือมะเร็งปากมดลูก มักมีตกขาวผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย

 

การป้องกันไม่ให้เกิดอาการตกขาว

·      ควรสังเกตลักษณะของตกขาว หากพบตกขาวผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษา

·      รักษาความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้น เช็ดให้แห้งหลังอาบน้ำ เปลี่ยนชุดชั้นในบ่อยๆ

·      หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้นที่มีน้ำหอม สารเคมี หรือสี

·      สวมใส่ชุดชั้นในที่ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดแน่น

·      หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย



เชื่อไหมว่า โพรไบโอติกส์อาจช่วยรักษาอาการตกขาวได้   แต่ขึ้นอยู่กับสาเหตุของตกขาวดังนี้

1. ตกขาวที่เกิดจากการติดเชื้อ  โพรไบโอติกส์บางชนิด โดยเฉพาะสายพันธุ์แลคโตบาซิลลัส มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ซึ่งอาจช่วยลดอาการตกขาว กลิ่นเหม็น คัน แสบ ระคายเคือง ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งสายพันธุ์แลคโตบาซิลลัสที่มีประสิทธิภาพ เช่น แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส (Lactobacillus acidophilus) แลคโตบาซิลลัส เครโยรัม (Lactobacillus rhamnosus) แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ (Lactobacillus casei)

2. ตกขาวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โพรไบโอติกส์บางชนิด โดยเฉพาะสายพันธุ์แลคโตบาซิลลัส อาจช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งอาจช่วยลดอาการตกขาวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งสายพันธุ์แลคโตบาซิลลัสที่มีประสิทธิภาพ เช่น  แลคโตบาซิลลัส เครโยรัม (Lactobacillus rhamnosus) แลคโตบาซิลลัส รีเทอรี (Lactobacillus reuteri)

3. ตกขาวที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ โพรไบโอติกส์อาจไม่ส่งผลต่ออาการตกขาวที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การแพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้น ภาวะช่องคลอดแห้ง หรือมะเร็งปากมดลูก

 

ถือได้ว่า โพรไบโอติกส์ มีประโยชน์และมีส่วนช่วยแก้ปัญหาเรื่องตกขาวที่ดีมากๆ หากรับประทานอย่างเหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของสุขภาพผู้หญิง ขอแนะนำ Labbiome Probiotics ตัวช่วยเรื่องตกขาว ปกป้องลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน


ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.lablibraryofficial.com/

 

แหล่งอ้างอิง:

 


Comments


bottom of page