top of page

6 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโพรไบโอติกส์


โพรไบโอติกส์ เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ที่ถูกมองว่า เป็น “แบคทีเรียดี” และมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา โพรไบโอติกส์ มีบทบาทสำคัญซึ่งส่งผลโดยตรงทั้งระบบทางเดินอาหาร และสุขภาพโดยรวม แต่ก็ยังมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับโพรไบโอติกส์ เราจะมาดูกันว่า 6 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโพรไบโอติกส์ มีอะไรกันบ้าง




1. ในโยเกิร์ตทุกตัวมีส่วนผสมของโพรไบโอติกส์

แน่นอนว่า โยเกิร์ตบางชนิดมีโพรไบโอติกส์ที่มีประโยชน์  แต่ไม่ใช่โยเกิร์ตทุกตัว เพราะโยเกิร์ตบางชนิดอาจมีโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ที่ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ควรอ่านฉลากโภชนาการเพื่อดูว่ามีโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ใดบ้าง  และตรวจสอบจำนวนจุลินทรีย์ (colony forming units หรือ CFUs)  โดยเลือกโยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกส์ที่มี CFUs สูง ก็จะดีต่อสุขภาพ


2. โพรไบโอติกส์ดูแลได้แค่ระบบทางเดินอาหาร

จริงๆ แล้วโพรไบโอติกมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม ไม่ใช่แต่ระบบทางเดินอาหารเท่านั้น แต่โพรไบโอติกยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน  ลดความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้  โรคผิวหนัง   และอาจช่วยเพิ่มสุขภาพจิตที่ดี ลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ด้วย


3. ไม่ควรทานโพรไบโอติกส์ในขณะที่ใช้ยาปฏิชีวนะ

ไม่จริงเสมอ การทานโพรไบโอติกส์ควบคู่กับยาปฏิชีวนะอาจเป็นประโยชน์ในบางกรณี  ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของโพรไบโอติกส์และชนิดของยาปฏิชีวนะ แต่การทานโพรไบโอติกส์ควบคู่กับยาปฏิชีวนะบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงของยา  ที่พบบ่อย เช่น ท้องเสีย  ซึ่งเกิดจากการเสียสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร   ก่อนทานโพรไบโอติกส์ควบคู่กับยาปฏิชีวนะ   เพื่อดูว่าปลอดภัยและเหมาะสมกับคุณหรือไม่


4. เลือกโพรไบโอติกส์ปริมาณมากๆ ดีกว่าเสมอ

ไม่จำเป็นเสมอไป   เพราะปริมาณโพรไบโอติกที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และสุขภาพโดยรวมของผู้รับประทาน สุขภาพของระบบทางเดินอาหาร ภูมิคุ้มกัน และระบบอื่นๆ ของร่างกาย ส่งผลต่อประสิทธิภาพของโพรไบโอติกส์ ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับบุคคลหนึ่งอาจไม่เหมาะสมกับอีกบุคคลหนึ่งก็ได้ หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเลือกโพรไบโอติกส์ที่เหมาะสม


5. ต้องเก็บโพรไบโอติกในตู้เย็น

โพรไบโอติกส์บางชนิด จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็นเพื่อรักษาความมีชีวิตอยู่ ซึ่งโพรไบโอติกส์เหล่านี้มีแบคทีเรียมีชีวิต ที่ไวต่ออุณหภูมิ ความร้อน และแสงแดด การเก็บรักษาในตู้เย็นจะช่วยรักษาประสิทธิภาพและยืดอายุการรับประทาน ควรอ่านฉลากโภชนาการเพื่อดูคำแนะนำในการเก็บรักษา เช่น โยเกิร์ต หรือ นมเปรี้ยวที่มีส่วนประกอบของโพรไบโอติกส์ เป็นต้น โดยตรงฉลากผลิตภัณฑ์ จะมีแนะนำว่าต้องเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นหรือไม่


6. พรีไบโอติก (Prebiotic) กับ โพรไบโอติก (Probiotic) คือตัวเดียวกัน

พรีไบโอติกส์ และโพรไบโอติกส์ ทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมสุขภาพลำไส้แต่เป็นสารที่แตกต่างกัน  โดย พรีไบโอติกส์ เป็นอาหารของแบคทีเรีย ที่ช่วยเสริมให้โพรไบโอติกส์เจริญเติบโตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเทียบง่ายๆ คือ

·พรีไบโอติกส์ เป็นใยอาหารชนิดพิเศษที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ แต่จุลินทรีย์ในลำไส้ (โดยเฉพาะโพรไบโอติกส์) สามารถนำไปใช้เป็นอาหารให้กับโพรไบโอติกส์ที่จะเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

· โพรไบโอติกส์ เป็นจุลินทรีย์มีชีวิตที่มีประโยชน์ อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ ระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพโดยรวม

 

โพรไบโอติกส์มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายแต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องควรเลือกโพรไบโอติกที่มีคุณภาพ  และเหมาะสมกับสุขภาพด้วย รู้แบบนี้แล้ว มาเพิ่มโพรไบโอติกส์ให้กับร่างกาย เพื่อปรับสมดุลสุขภาพให้ดีขึ้นทุกวัน เพียงทาน Probiotics เป็นประจำขอแนะนำ Labbiome Probiotics ปกป้องลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน


ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.lablibraryofficial.com

 

แหล่งอ้างอิง

Comments


bottom of page